วางแผน 'ท่องเที่ยว' หลังโควิด-19 - กรุงเทพธุรกิจ

hiburansemataaja.blogspot.com

3 สิงหาคม 2563 | โดย บริษัท แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำากัด (มหาชน) | คอลัมน์ Wealth Creation

ส่อง 4 เทคนิคการวางแผนท่องเที่ยวแบบครอบครัวอย่างคุ้มค่า ที่จะทำให้เกิดการวางแผนจัดการที่ดี และช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย หลังจากช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าคลี่คลาย และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาทำการปกติ

ปัจจุบันสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นมาเป็นเดือนแล้ว ทำให้หลายๆ สถานประกอบการ เริ่มกลับมาเปิดทำการเป็นปกติ แน่นอนว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อย่างเช่น โรงแรม ร้านอาหารต่างๆ ก็เริ่มกลับมาทำการปกติ และหลังจากปิดกิจการมาหลายเดือน ประกอบกับผู้คนที่ต้องอยู่บ้านกันมานาน ทำให้ความต้องการที่จะไปท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น

อีกทั้งสถานประกอบการการท่องเที่ยวต่างๆ ก็ออกโปรโมชั่นดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยียนอย่างครึกครื้น และทางรัฐบาลก็ออกโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่มอบส่วนลดค่าที่พักที่เข้าร่วมโครงการถึง 40% และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอีกแรงนึงด้วย

วันนี้ผมเลยมีเทคนิคการวางแผนท่องเที่ยวแบบครอบครัวมานำเสนอให้ท่านผู้อ่านกันครับ ซึ่งหากเรามีการวางแผนจัดการที่ดี ก็จะสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นจำนวนมาก และจะทำให้ทริปนั้นมีคุณค่าและน่าประทับใจอีกด้วย ซึ่งการวางแผนท่องเที่ยวแบบครอบครัวอย่างคุ้มค่านั้น ผมมี 4 ทริคดีดีมานำเสนอกัน

1.การวางแผนเลือกจุดหมายการเดินทาง

การเลือกจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะหลาย ๆ คนที่เดินทางเป็นครอบครัวและมีเด็กๆ ไปด้วย โดยจุดหมายการเดินทางนั้นควรจะเลือกแบบที่ง่ายๆ และไม่ลำบากมากนัก ถ้าขับรถไปหรือต้องนั่งเครื่องบินไปก็ไม่ควรนานมาก และระยะเวลาในการท่องเที่ยวก็ไม่ควรนานจนเกินไป

เพราะถ้าเราเริ่มต้นแบบโหดๆ ลุยๆ เด็กอาจจะไม่สนุกและไม่ประทับใจกับการเดินทางเที่ยวในครั้งนั้นก็ได้ นอกจากนี้ถ้าเป็นทริปของลูกๆ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรจะต้องวางโปรแกรมทั้งชวนสนุกและน่าเรียนรู้แทรกเข้าไปด้วย เช่น มีสวนสนุก หรือพิพิธภัณฑ์สำหรับเด็กเข้ามาแทรก เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ให้กับคุณลูกได้อย่างครบถ้วน

2.การวางแผนซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง

เพื่อให้ได้ตั๋วราคาถูก โดยถ้าเดินทางด้วยเครื่องบิน คุณก็ควรจะมีการติดตามโปรโมชั่นในแต่ละเดือนของแต่ละสายการบิน ซึ่งทุกวันนี้สามารถเช็คผ่านแอพพลิเคชั่นได้โดยง่าย ทั้งในส่วนของสายการบิน หรือตัวแทนต่างๆ เช่น Traveloka, Skyscanner, Expedia และอีกหลายๆ เว็บไซต์ ซึ่งโดยปกติแล้ว ตั๋วเครื่องบินสำหรับเด็กในบางช่วงอายุก็จะได้รับส่วนลดอีกด้วย

รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆ ที่ก็มักจะมีส่วนลดให้กับเด็ก ซึ่งอาจต้องใช้บัตรนักเรียนหรือบางแห่งก็ไม่ต้องใช้ ซึ่งหากท่านผู้อ่านได้มีการศึกษาไว้ล่วงหน้า วางแผนและเตรียมความพร้อมไปด้วยก็จะทำให้ประหยัดเงินไปได้อย่างมากเลยทีเดียว

3.การวางแผนเลือกที่พัก

การเดินทางไปเที่ยวแบบครอบครัวโดยเฉพาะหากมีคุณลูกไปด้วย เรื่องที่พักก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งคุณควรเลือกที่พักที่มีทำเลดี เดินทางสะดวก อยู่ในใจกลางเมือง เพื่อความปลอดภัยของคุณลูก และไม่ลำบากในการเดินทางมากเกินไป ซึ่งการจองที่พักหากได้มีการจองล่วงหน้าก่อนการเดินทางอย่างน้อยสัก 1 เดือน ก็จะได้ราคาที่ถูกกว่าแน่นอนและเป็นการรับประกันว่าจะได้ที่พักที่ถูกใจอีกด้วย

4.ต้องวางแผนออมเงินเพื่อการท่องเที่ยว

การวางแผนในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยเมื่อคุณมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าถึงกำหนดการที่จะพาครอบครัวไปเที่ยว รู้แผนการเดินทาง สถานที่เที่ยว และที่พักเบื้องต้น ก็จะสามารถประมาณการงบค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ได้ ว่าต้องใช้เงินมากน้อยเพียงใด ทีนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเริ่มวางแผนการเก็บเงิน และทยอยสะสมเงินไปเรื่อยๆ ก่อนการเดินทาง เพื่อให้มีเงินเพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่จะต้องใช้ในทริปนั้นๆ โดยอาจจะกันรายได้ที่มีเป็นเงินออมเพื่อการท่องเที่ยวซึ่งเป็นเป้าหมายในระยะสั้น โดยเก็บออมเป็นประจำทุกๆ เดือน และนำเงินออมนั้นไปลงทุนให้ได้ดอกผล

โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดของการไปเที่ยวก็คือ ไม่ควรที่จะกู้หนี้ยืมสิน หรือใช้เงินในอนาคตมาเพื่อใช้ในการท่องเที่ยว แต่ควรที่จะเก็บออมเงินไว้ เพราะไม่เช่นนั้นหลังจากจบทริปแล้วท่านผู้อ่านอาจจะต้องมาปวดหัวกับการตามใช้หนี้ หรือต้องมารับผิดชอบกับดอกเบี้ยเงินกู้ยืม หรือหนี้บัตรเครดิตที่ถึงกำหนดที่ตามมาเรียกเก็บ และจะส่งผลทำให้ระบบการเงินของคุณต้องเสียไปได้

การไปเที่ยวแบบครอบครัวนอกจากจะได้พักผ่อนจากการทำงานหนักมาทั้งปี ยังจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีของคนในครอบครัวอีกด้วย เพราะฉะนั้นท่านผู้อ่านควรจะหาเวลาว่างในการเดินทางไปท่องเที่ยวบ้าง และอย่าลืมที่จะวางแผนในการท่องเที่ยวกันด้วยนะครับ และแน่นอนว่า อย่าลืมที่จะสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง เมื่อต้องออกไปข้างนอก และต้องหมั่นล้างมืออยู่ตลอด นอกจากตัวเราแล้ว อย่าลืมดูแลผู้สูงอายุ และเด็ก ๆ ในบ้านด้วยนะครับ อย่าเพิ่งละเลยในการป้องกันตัวเอง เพราะนิ่งนอนใจกับสถานการณ์ที่ดีขึ้น เชื้อจะระบาดอีกครั้งเมื่อไรไม่มีใครรู้ได้ ระมัดระวังตัวเองให้ดีที่สุดจะดีกว่าครับ